วันนี้ 14 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10:00 น. ที่อาคาร ไอ ทาวเวอร์ พรรคไทยก้าวใหม่ จัดงาน “พลิกวิกฤต ‘หลาก – แล้ง – จน’ ของประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีสำรวจชั้นนำระดับโลก” ร่วมชมการสาธิตเทคโนโลยีธรณีฟิสิกส์ ”TEM2Go“ (Time Domain Electromagnetic System) นวัตกรรมในการจัดการน้ำ จากประเทศเดนมาร์ก ที่สามารถมองเห็นใต้ดินแบบเรียลไทม์ เพื่อช่วยวางแผนจัดการน้ำได้อย่างแม่นยำ แก้ปัญหาน้ำท่วม และน้ำแล้ง ได้อย่างตรงจุด นำโดย คุณหญิง กัลยา โสภณพนิช ประธานคณะกรรมการโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ในฐานะประธานพรรคไทยก้าวใหม่ นายธเนศ นะธิศรี กรรมการ ผู้จัดการโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ นายวีระ วศินวรรธนะ วิศวกรธรณีเทคนิคอดีตกรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัท STS Engineering และนางสาวศิริวรรณ ม่วงเกตุ วิศวกรธรณีโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ
นายสุชัชวีร์ กล่าวเปิดงานว่า วันนี้เป็นอีกวันที่สำคัญของพรรคไทยก้าวใหม่ และการเมืองแบบไทยก้าวใหม่ ซึ่งตนเชื่อว่าทุกคนรู้สึกเหมือนตนที่คับแค้นว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยที่น้ำท่วมได้ทุกปี โดยเมื่อน้ำท่วม เราก็ต้องซื้อกระสอบทราย และมีความจำเป็นต้องเยียวยา แต่เมื่อไม่ไหวผู้นำก็ต้องมาขอโทษ ฉะนั้นประเทศไทยก็จะวนอยู่แบบนี้ กลายเป็นวงจร ซึ่งประธานและยุทธศาสตร์ของพรรค ได้ให้ข้อมูลว่า ตั้งแต่ปี 54 จนถึงปัจจุบัน เราเบิกงบไปแล้วไม่น้อยกว่า 1 ล้านล้านบาท แต่น้ำก็ยังท่วมเหมือนเดิม กระดูกสันหลังของประเทศก็ยังจมอยู่ใต้น้ำ จนคนไทยจำแผนที่ไม่ได้แล้ว เพราะจมน้ำหมด
ดังนั้น พรรคไทยก้าวใหม่ของเราเลิกทน และไม่ได้มาแค่พูดแทนท่าน แต่จะมาบอกว่าวิธีการแก้คืออะไร เพราะอุปกรณ์ที่ตรงนี้ เป็นอุปกรณ์ระดับโลก ซึ่งพรรคไทยก้าวใหม่ทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ เพื่อเป็นตัวแทนของประชาชน ที่จะทำอย่างไรให้เลิกวงจรอุบาทว์ ที่จะมาเยียวยา ขอโทษ และซื้อกระสอบทราย ให้เสียงบประมาณ โดยเครื่องมือนี้จะวิเคราะห์ว่าเราจะบริหารจัดการน้ำอย่างไรด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ จึงขอใช้เวทีนี้เพื่อให้เห็นวิธีการแก้ปัญหาระดับโลกโดยคนไทย และเกิดขึ้นในประเทศไทย และยุติวงจรอุบาทว์
ขณะที่ คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า ตนเป็นคนที่มาจากบ้านนอก ก็จะเห็นเกษตรกรที่จมน้ำ และไม่สามารถทำมาหากินได้ จึงอยากจะช่วยเกษตรกรที่เป็นคนค่อนประเทศของไทย ได้มีอนาคต และมองเห็นอนาคตของลูกหลานร่วมกับพรรคไทยก้าวใหม่ ซึ่งเมื่อตนไม่ได้เป็นรัฐมนตรีแล้วก็ลงพื้นที่สู่ชุมชน และเรามีชุมชนที่ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการน้ำ ทำให้รายได้เพิ่มขึ้น 5-8 เท่า ชีวิตก็ดีขึ้น เราจึงทำ MOU กับหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เพื่อที่จะช่วยประชาชน และชุมชนทั้งประเทศ เพื่อจะบริหารจัดการน้ำ และชีวิตที่ดีกว่าของเกษตรกร
คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า เทคโนโลยีนี้ ใช้เวลาเพียงไม่ถึงเดือน สามารถทำงานให้กับทหารพัฒนาได้ถึง 64 แห่ง ในงบประมาณ และเวลาที่เขามีอยู่ ไม่ต้องใช้งบประมาณเพิ่ม และช่วยเกษตรบริหารจัดการน้ำได้ ด้วยเหตุผลนี้เราจึงจะสามารถสำรวจธรณีวิทยาของที่ต่างๆ ที่น้ำเยอะเราจะสามารถทำตามแนวพระราชดำริ เพื่อหาที่ให้น้ำอยู่หรือไหลเก็บไว้ใต้ดิน และให้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติได้อย่างไร เครื่องนี้จะบอกกับเรา น้ำจะมีทั้งปี และบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแม่นยำ
นายวีระ ได้ยกภาพรวมของการจัดการน้ำ ปี 2567 พร้อมกล่าวว่า เรามีปริมาณน้ำฝน 793,000 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่เราใช้น้ำรวมแค่ 152,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งน้ำในเขื่อน และอ่าง อยู่ที่ 56,459 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่เหลือถูกทิ้งลงทะเล เราจึงคิดวิธีเก็บด้วยการนำน้ำลงสู่ใต้ดิน โดยนายวีระยังได้เปิดรูปแบบการสำรวจใต้พื้นดินต่างๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์ ลักษณะคล้ายกับเครื่อง MRI ที่ปล่อยคลื่นไฟฟ้าลงไป และสะท้อนกลับขึ้นมา โดยไม่ต้องตอกลงไปในชั้นดิน เนื่องจากใช้การส่งคลื่น ELectromagnetic ล็อคระยะทาง 15 เมตร
นายธเนศ กล่าวเสริมว่า จากปริมาณน้ำดังกล่าว จึงนำไปสู่แนวคิดในการบริหารจัดการน้ำอย่างไรให้ได้มากขึ้น เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส เพื่อเพิ่มศักยภาพในการกักเก็บน้ำ เมื่อสู่ช่วงน้ำแล้ง เราก็จะมีต้นทุน และเพิ่มผลผลิตในการช่วยเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยเทคโนโลยีดังกล่าวต้องใช้ควบคู่กับการพัฒนาระบบประตูระบายน้ำ โดยเครื่องมือดังกล่าว สามารถ Sounding ลงไปได้เกือบ 100 เมตร ขึ้นอยู่กับความหนาของชั้นดิน และประสิทธิภาพของชั้นดินในเวลานั้น ซึ่งข้อมูลจะถูกนำส่งขึ้นมาในทุกก้าว และระบบ AI จะมีการเข้ามาประยุกต์ข้อมูล ผ่านโทรศัพท์มือถือ และสามารถนำไปใช้วิเคราะห์เพื่อบริหารจัดการน้ำได้
นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอวิธีการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในหลายพื้นที่ อาทิ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา การใช้เครื่องตรวจผ่านชั้นดินเหนียว ดินแข็ง ทราย และการหาวิธีแก้ เพื่อตัดมวลน้ำที่จะเข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้เกิดการกักมวลน้ำสัก 20 เปอร์เซ็นต์ เข้าอยู่ในชั้นน้ำ และเพื่อกระจายน้ำไม่ให้ไปท่วมขังที่อยุธยา และทำให้พยุงพื้นที่ กทม.ไม่ทรุดตัวอีกด้วย โดยเครื่อง TEM2Go สามารถสแกน และระบุแหล่งน้ำใต้ดินได้อย่างชัดเจน ช่วยให้สามารถเติมน้ำลงชั้นใต้ดินได้อย่างตรงจุด รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพ และความคุ้มทุนของการพัฒนาแหล่งน้ำต่างๆ ได้ เพื่อช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร และสร้างความมั่นคงทางรายได้ให้แก่ชุมชน
นายสุชัชวีร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า นี่คือเทคโนโลยีที่พิสูจน์แล้ระดับโลก ใช้ในการเก็บน้ำใช้ในยามแล้ง ผันน้ำลงไปเก็บไว้ในยามน้ำท่วม ซึ่งเทคโนโลยีนี้เป็นของคนไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก โดยพรรคไทยก้าวใหม่จะนำเครื่องมือนี้ มาต่อยอด โดยนายวีระจะมาเป็นที่ปรึกษาของพรรคไทยก้าวใหม่ ส่วนนายธเนศ จะมาเป็นหัวหน้าทีมทรัพยากรน้ำของพรรค ซึ่งเราจะใช่เครื่องมือนี้ เพื่อผลักดันให้ใช้ในประเทศไทย เพื่อแก้ปัญหา และเป็นข้อพิสูจน์ว่า พรรคไทยก้าวใหม่ เราทำได้จริง และตั้งใจผลักดันให้เป็นนโยบายของพรรคไทยก้าวใหม่
