วันนี้ (7 พฤศจิกายน 2568) นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ พร้อมผู้บริหารพรรค เปิดที่ทำการพรรคไทยก้าวใหม่ ณ อาคารไอ ทาวเวอร์ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โดยในช่วงเช้ามีพิธีทางศาสนาอิสลามและศาสนาพุทธ นิมนต์สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าประคุณสมเด็จธงชัย วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล
นายสุชัชวีร์ เปิดเผยภายหลังว่า ตนเองรู้สึกตื่นเต้น เพราะครั้งนี้เป็นเดิมพันครั้งสำคัญ เมื่อวันที่ 3 ต.ค.68 พรรคไทยก้าวใหม่ได้ประกาศเปิดตัวและชูนโยบายธนู 4 ดอก เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ดีขึ้น ธนูดอกที่ 1 แก้ปัญหารากฐานของประเทศไทย พลิกโฉมการศึกษาไทย ขอเป็นพรรคการเมืองที่ชูเรื่องการสร้างคน ธนูดอกที่ 2 สร้างเศรษฐกิจใหม่ ธนูดอกที่ 3 คุณภาพชีวิตใหม่ จัดการกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ไม่ให้กระดูกสันหลังของประเทศจมน้ำ ธนูดอกที่ 4 โครงสร้างค่านิยมใหม่ ปราบคอรัปชั่น สแกมเมอร์ และทุนสีเทา
คำถามที่ถามกันว่า พรรคไทยก้าวใหม่แตกต่างจากพรรคอื่นอย่างไร ทุกพรรคมีดี ทุกคนมีดี พรรคไทยก้าวใหม่ก่อตั้งเพื่อมาทำงานแก้ปัญหารากฐานของประเทศ ซึ่งวันนี้ยังไม่มีใครตั้งใจทำ เราขอเป็นพรรคการเมืองที่ชูธงเรื่องการศึกษา การสร้างคน สร้างเศรษฐกิจ ไม่เอาทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งผู้ร่วมอุดมการณ์ของพรรคไทยก้าวใหม่ เป็นมืออาชีพมาเพื่อทำ ไม่ใช่มาเพื่อพูด
“นี่คือแพชชั่นที่แท้จริงของผมและสมาชิกทุกคน เราตั้งใจการเมืองโดยไม่เริ่มต้นจากความขัดแย้ง เราพร้อมร่วมมือกันทุกพรรคสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศนี้ พรรคไทยก้าวใหม่พยายามสร้างนักการเมืองที่มีคุณภาพ มีอุดมการณ์เปลี่ยนแปลงประเทศ เริ่มต้นด้วยการศึกษา เปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ สร้างคุณภาพชีวิตใหม่ และจัดการกับปัญหาคอรัปชั่น“
นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า เพียงแค่ 1 เดือนจากที่เราประกาศตัว เราเปิดที่ทำการพรรคใหม่ที่จะเป็นศูนย์รวมพลังต้อนรับสมาชิกร่วมอุดมการณ์ ทุกคะแนนที่เลือกท่านเลือก ท่านได้เรา เลือกอย่างไรได้อย่างนั้น ทุกคะแนนที่ให้ให้กับ สส.ของพรรคไทยก้าวใหม่ จะได้คนไปดูและอนาคตลูกหลานของท่าน ทุกคะแนนของท่านคือการสร้างการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยที่จะแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ไม่ใช่แก้ปัญหาฉาบฉวย ขอให้พรรคไทยก้าวใหม่เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง เราสัญญาว่าจะทำการเมืองคุณภาพ ไม่ทำการเมืองฉาบฉวย ไม่มีความขัดแย้ง สร้างคนคุณภาพและสร้างการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นรากฐานที่จำเป็นในการเปลี่ยนแปลงประเทศนี้
วันนี้วันดีเป็นวันธงชัย การสร้างพรรคการเมืองเป็นเรื่องที่ยากที่สุดในชีวิตของตนเอง จึงขอฝากเนื้อฝากตัวให้พี่น้องประชาชนสนับสนุนพวกเราด้วย เรามาเพื่อจะเปลี่ยนแปลง ขอโอกาสให้พวกเราทุกคนมีโอกาสดูแลลูกหลานของท่านด้วย นี่คือโอกาสของประเทศไทยจะหมู่จะจ่าอยู่ตรงนี้ เพราะการศึกษาเป็นศูนย์กลางการเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ขอเป็นพรรคการเมืองที่ปักธงนี้ให้ได้
สำหรับแผนการส่งผู้สมัคร สส.เราตั้งใจในทุกภาคเนื่องจากเราเปิดรับผู้สมัครจากทุกภาค เราสัมภาษณ์ผู้สมัครในทุกพื้นที่ ทั้งกรุงเทพมหานคร ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคเหนือ ภาคอีสาน เราตั้งใจที่จะมีคนมีอุดมการณ์ร่วมกัน ทำงานการเมืองที่มีคุณภาพ ส่วนส่งครบ 400 เขตหรือไม่ เรากำลังดู เพราะเราไม่ได้เน้นปริมาณ เราเน้นคุณภาพ เป้าหมายจำนวน สส.มากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็เสียกำลังใจ เอาเป็นว่าจะทำให้ดีที่สุด จำนวน สส.ขึ้นอยู่กับประชาชน มีความหมายทำให้เราทำงานได้
ขณะที่เรื่องแคนดิเดตนายกฯ หัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคต้องมีความพร้อมในการเป็นผู้นำอยู่แล้ว เท่าที่เห็นก็ต้องเป็นหัวหน้าพรรค ส่วนจะส่งครบทั้ง 3 รายชื่อหรือไม่ ต้องคุยกันว่าจะมีกี่คน ส่วนเรื่องขั้วทางการเมืองสำหรับพรรคไทยก้าวใหม่ เราพร้อมทำงานกับทุกคนเพื่อจะสร้างสรรค์การเปลี่ยนแปลง โดยเอาเป้าหมายเป็นหลัก
“ศัตรูของเราคือความยากจน ความไม่รู้ การเสียโอกาสของเด็กทุกคน เพราะฉะนั้นความชัดเจนของเรา เราไม่ได้มาเพื่อการเมืองฉาบฉวย เรามาเพื่อทำการเมืองคุณภาพ และสร้างการเปลี่ยนแปลง”
นายสุชัชวีร์ กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางการสร้างพรรค พวกเราเป็นมืออาชีพ หวังว่าวันหนึ่งพรรคไทยก้าวใหม่จะเป็นศูนย์รวมของคนที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงและไม่กล้าเข้ามาการเมือง เพราะอย่างน้อยเราจะเป็นพื้นที่มั่นคง ต้อนรับคนที่มีความตั้งใจ คนที่มีความเป็นมืออาชีพ เป็นพื้นที่ปลอดภัยในการทำการเมืองสร้างสรรค์ เราจะตั้งพรรคการเมืองที่มีความเป็นมืออาชีพส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
ด้านคุณหญิง กัลยาโสภณพนิช ประธานพรรคไทยก้าวใหม่ กล่าวว่า เจ้าคุณธงชัยได้บอกกับตนเองว่า การศึกษาเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาประเทศทุกด้าน เพราะฉะนั้นสิ่งนี้เป็นสิ่งที่พรรคไทยก้าวใหม่กำลังจะพาประเทศก้าวข้ามวิกฤตและให้ลูกหลานของเราทุกคนอยู่ในโลกดิจิทัลที่โหดร้ายอย่างมีความสุข เพราะฉะนั้นเราต้องการมือต้องการพลังของทุกคนที่คิดถึงอนาคตของลูกหลาน
“ภาวนาว่าชีวิตที่เหลือจะทำสิ่งนี้ให้กับประเทศไทยประสบความสำเร็จ โดยจะใช้ตัวเองเพื่อสร้างและผลักดันโอกาสให้กับลูกหลานคนไทยทุกคนให้ได้มีโอกาสเรียนรู้เฉกเช่นดิฉัน” คุณหญิงกัลยา กล่าว
